วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

สัมภาษณ์อย่างไรให้ได้คนคุณภาพมาร่วมงาน


สัมภาษณ์อย่างไรให้ได้คนคุณภาพมาร่วมงาน 

การสัมภาษณ์เพื่อรับบุคคลเข้าทำงานเป็นการพิจารณาคัดกรองบุคคลภายในเวลาอันสั้น  โดยประเมินจากการพูดคุยซักถามในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  หลังจากการอ่านใบสมัครอันประกอบด้วยประวัติส่วนตัว  ประวัติการศึกษา  และประวัติการทำงาน  ซึ่งเอกสารเหล่นี้จะน่าสนใจจนมีการเรียกสัมภาษณ์  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประวัติหรือคุณสมบัติที่ดีของผู้สมัครเพียงอย่างเดียว  แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการเขียนเอกสารที่น่าสนใจด้วย  ยิ่งถ้าผู้สมัครเขียนได้ตรงกับสเปคที่บริษัทกำลังต้องการจะยิ่งเป็นที่สนใจเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้สมัครคนนั้นจะมีคุณสมบัติตามที่เขียนร้อยเปอร์เซ็นต์  การสัมภาษณ์จึงมีความสำคัญอย่างมากในการประเมินผู้สมัครและตัดสินใจรับเข้าทำงาน
หลังจากฝ่ายบุคคลคัดสรรผู้สมัครตามคุณสมบัติเบื้องต้น  ส่งให้หัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บริหารเพื่อพิจารณาเรียกสัมภาษณ์นั้น  สิ่งสำคัญข้อแรกคือ การวิเคราะห์สิ่งที่ปรากฎในเอกสารทั้งหมดว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด  เรื่องนี้อาจจะไม่ยากนักสำหรับตำแหน่งที่ไม่เน้นประสบการณ์  เพราะดูเฉพาะวุฒิการศึกษาตรงตามสายงาน  อายุอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด  ที่อยู่สามารถเดินทางมาทำงานได้สะดวก  ก็คงเพียงพอแล้ว  แต่สำหรับตำแหน่งที่ต้องการประสบการณ์ในการทำงานนั้นต้องพิจารณาอย่างหนักในส่วนของประวัติการทำงานจากบริษัทต่างๆ  ว่าช่วยให้บุคคลคนนั้นมีความชำนาญในตำแหน่งที่รับสมัครหรือไม่
การเตรียมคำถามที่จะสัมภาษณ์ให้ตรงประเด็นกับตำแหน่งที่รับสมัครเป็นเรื่องที่ควรทำต่อจากวิเคราะห์เอกสารของผู้สมัคร  คำถามที่ตรงประเด็นจะมาจากหน้าที่และความรับผิดชอบในบริษัทต่างๆที่เคยทำงานมา  ถามรายละเอียดว่าเคยทำอะไรบ้างในตำแหน่งที่เขียนไว้ในเอกสาร  ถ้าตอบวกไปวนมาแสดงว่าไม่เคยทำหน้าที่นั้นจริง  อาจจะเพียงแค่เห็นคนอื่นในบริษัททำและนำมาเขียนเป็นประสบการณ์ของตัวเอง  หรือถึงแม้เคยอยู่ในตำแหน่งนั้นจริงก็ถือว่าทำงานไม่ประสบความสำเร็จเพราะนำมาเล่าหรือตอบคำถามไม่ได้  การศึกษาโปรไฟล์แต่ละบริษัทที่ผู้สมัครเคยผ่านงานมา  จะช่วยให้วิเคราะห์ได้ว่ามีตำแหน่งหน้าที่ตามที่ผู้สมัครเขียนในเอกสารจริงหรือไม่
มาถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการประเมินผู้สมัคร  คือการสัมภาษณ์  เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์บุคลิกว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครหรือไม่  โดยเฉพาะตำแหน่งที่มีลูกน้องใต้บังคับบัญชา  ต้องมีลักษณะเป็นผู้นำ  การพูดจามีความน่าเชื่อถือที่จะสั่งคนทำงานได้  บุคลิกเหนียมอายหรือหน่อมแน้มย่อมไม่เหมาะกับตำแหน่งหัวหน้างาน  วิเคราะห์การตัดสินใจของผู้สมัครจากการตอบคำถาม  เด็จขาดเกินไปหรือเหลาะแหละโลเล  เพราะการตัดสินใจผิดพลาดของหัวหน้างานไม่ได้ผิดคนเดียว  แต่จะนำพาลูกน้องผิดพลาดทั้งหน่วยงาน  ตอบคำถามอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงหรือขี้โม้  เพราะถ้ารับคนขี้โม้เข้ามาทำงาน  เจ้านายจะได้รับข้อมูลที่ผิดเพี้ยนจากข้อเท็จจริง
การรับบุคคลตำแหน่งใดเข้ามาทำงานในองค์กร  ย่อมต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ  ขยันอดทน  และซื่อสัตย์  ซึ่งถ้าพบว่าการเขียนเอกสารกับความเป็นจริงไม่ตรงกัน  การตอบคำถามมีความไม่น่าเชื่อถือ  ย่อมหมายถึงว่าถ้ารับเข้ามาทำงานแล้ว  องค์กรนั้นจะได้คนที่ไม่มีคุณภาพ  ถึงแม้จะไม่ผ่านทดลองงานก็ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสของคนอื่นที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น