วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

เป็นผู้จัดการแบบไหนรุ่ง แบบไหนร่วง


เป็นผู้จัดการแบบไหนรุ่ง แบบไหนร่วง

ผู้จัดการในที่นี้จะเขียนถึงผู้จัดการแผนกหรือผู้จัดการฝ่ายในโรงงานอุตสาหกรรม  ตำแหน่งที่ต้องบริหารพนักงานเพื่อทำการผลิตสินค้าตามกระบวนการผลิตที่บริษัทกำหนด  ทักษะการบริหารของผู้จัดการคือการทำให้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานให้บรรลุเป้าหมาย  การทำงานจึงเกี่ยวข้องกับคนอื่นตลอดเวลา  โดยเฉพาะลูกน้องใต้บังคับบัญชา  จึงขอกล่าวถึงผู้จัดการ 3 แบบ ต่อไปนี้
1.       ปล่อยลูกน้องทำงานโดยไม่สั่งการ  ผู้จัดการแบบนี้  มาจากสองสาเหตุคือเกรงใจลูกน้อง  ไม่กล้าสั่งการกลัวลูกน้องกดดันแล้วไม่ทำงาน  หรือเพราะเจอกลุ่มอิทธิพลในองค์กร  ไม่เชื่อฟังคำสั่งจึงปล่อยเลยตามเลย  การปล่อยให้ลูกน้องทำตามใจย่อมส่งผลเสียต่องาน  เพราะถ้าพนักงานตัดสินใจเองสั่งการเองได้  คงไม่ต้องจ้างผู้จัดการ  สาเหตุที่สองคือทำงานไม่เป็น  ลูกน้องบอกจะทำอะไรจึงปล่อยตามนั้นเพราะผู้จัดการไม่รู้งาน  ถึงแม้สั่งอะไรออกไปก็ไม่มีใครทำตามเพราะสั่งมั่วๆแบบไม่รู้จริง  แบบหลังนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่กระบวนการสรรหาหรือแต่งตั้งผู้จัดการคนนี้  ทำให้ได้คนทำงานไม่เป็นมาเป็นผู้จัดการ
2.       บริหารอยู่บนหอคอย  สั่งการอยู่ที่โต๊ะทำงานโดยไม่เข้าไปดูเหตุการณ์หน้างาน  รอฟังรายงานว่าเกิดปัญหาอะไร  แก้ไขได้หรือยัง  งานเสร็จหรือยัง  ทำงานถึงไหนแล้ว  ทำไมยังทำไม่ได้หรือยังไม่เสร็จ  นำผลการทำงานไปรายงานเจ้านาย  ข้อดีรายงานว่าเป็นผลงานของตัวเอง  ข้อเสียไม่รายงาน  หรือหากปิดบังไม่ได้ก็รายงานว่าเป็นความผิดพลาดของลูกน้องคนใดคนหนึ่ง  ถ้าคุณบริหารแบบนี้คุณจะไม่เห็นความเป็นจริงที่หน้างาน  อาจจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากลูกน้อง  ส่งผลให้ติดสินใจและสั่งการผิดพลาด  ไม่ได้รับความรู้สึกที่ดีจากลูกน้อง  ส่งผลให้ teamwork อ่อนแอ  จนนำไปสู่การแบ่งพักแบ่งพวกในองค์กร 
3.       ติดดิน  เข้าไปสั่งการในพื้นที่ให้เห็นกับตา  มีปัญหาเข้าไปร่วมแก้ไข  รับทั้งผิดและชอบร่วมกับทีมงานทุกคน  คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรือทำเป็นทุกอย่าง  แต่เข้าไปมีส่วนร่วมทุกอย่าง  ลูกน้องคุณจะบอกรายละเอียดแก่คุณเอง คุณจะได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน  ทำให้ตัดสินใจและสั่งการได้ถูกต้อง  ปัญหาต่างๆแก้ไขได้อย่างรวดเร็วเพราะมี teamwork ที่เข้มแข็ง  การเป็นผู้จัดการแบบนี้ต้องทำงานหนัก  อดทน  หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ  การเข้าพื้นที่ร่วมกับลูกน้องอาจจะไม่ได้รับการตอบสนองในทางบวกทุกครั้งทุกคน  แต่การทำเพื่อพิสูจน์ให้ลูกน้องเห็นว่าคุณมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นผู้นำพวกเขาได้  ทำงานร่วมหัวจมท้ายกับพวกเขา  พร้อมที่จะเสียสละแรงกายแรงใจกับลูกน้อง  รายงานเจ้านายว่าผลงานเป็นของทุกคน  ลูกน้องจะรักคุณและทุ่มเททำงานให้คุณ
ทั้ง 3 แบบที่กล่าวมาเคยพบเห็นจริงในองค์กร  แบบที่ 1 อยู่ได้ไม่นานก็ร่วงเพราะลูกน้องไม่ยอมรับ  สั่งการใครไม่ได้  เท่ากับวันๆไม่ได้ทำหน้าที่  แบบที่ 2 จะอยู่ได้นานกว่าแบบที่ 1  เพราะยังรู้จักวางอำนาจ  รู้จักรายงานเจ้านายเอาความดีเข้าตัว  จึงทำให้ลูกน้องบางคนเกรงกลัว  แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเมื่อความจริงจะปรากฎในรูปของผลงาน  และหลังจากนั้นลูกน้องจึงจะกล้าพูดถึงข้อเสียของผู้จัดการคนนี้  แบบที่ 3  ยังไงก็รุ่ง  ถึงแม้ในความเป็นจริงของสังคมจะมีทั้งคนรักและคนเกลียด  แต่การเป็นผู้จัดการแบบที่ 3 ก็ยืนยันได้ว่าลูกน้องจะรักคุณมากกว่าเกลียดแน่นอน  และคุณจะทำงานร่วมกับลูกน้องและทีมงานได้อย่างยืดยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น