เป็นผู้จัดการแบบไหนรุ่ง แบบไหนร่วง
ผู้จัดการในที่นี้จะเขียนถึงผู้จัดการแผนกหรือผู้จัดการฝ่ายในโรงงานอุตสาหกรรม ตำแหน่งที่ต้องบริหารพนักงานเพื่อทำการผลิตสินค้าตามกระบวนการผลิตที่บริษัทกำหนด ทักษะการบริหารของผู้จัดการคือการทำให้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานให้บรรลุเป้าหมาย การทำงานจึงเกี่ยวข้องกับคนอื่นตลอดเวลา โดยเฉพาะลูกน้องใต้บังคับบัญชา จึงขอกล่าวถึงผู้จัดการ 3
แบบ ต่อไปนี้
1.
ปล่อยลูกน้องทำงานโดยไม่สั่งการ ผู้จัดการแบบนี้ มาจากสองสาเหตุคือเกรงใจลูกน้อง ไม่กล้าสั่งการกลัวลูกน้องกดดันแล้วไม่ทำงาน หรือเพราะเจอกลุ่มอิทธิพลในองค์กร ไม่เชื่อฟังคำสั่งจึงปล่อยเลยตามเลย การปล่อยให้ลูกน้องทำตามใจย่อมส่งผลเสียต่องาน เพราะถ้าพนักงานตัดสินใจเองสั่งการเองได้ คงไม่ต้องจ้างผู้จัดการ สาเหตุที่สองคือทำงานไม่เป็น
ลูกน้องบอกจะทำอะไรจึงปล่อยตามนั้นเพราะผู้จัดการไม่รู้งาน ถึงแม้สั่งอะไรออกไปก็ไม่มีใครทำตามเพราะสั่งมั่วๆแบบไม่รู้จริง แบบหลังนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่กระบวนการสรรหาหรือแต่งตั้งผู้จัดการคนนี้ ทำให้ได้คนทำงานไม่เป็นมาเป็นผู้จัดการ
2.
บริหารอยู่บนหอคอย สั่งการอยู่ที่โต๊ะทำงานโดยไม่เข้าไปดูเหตุการณ์หน้างาน รอฟังรายงานว่าเกิดปัญหาอะไร แก้ไขได้หรือยัง งานเสร็จหรือยัง ทำงานถึงไหนแล้ว ทำไมยังทำไม่ได้หรือยังไม่เสร็จ นำผลการทำงานไปรายงานเจ้านาย ข้อดีรายงานว่าเป็นผลงานของตัวเอง ข้อเสียไม่รายงาน หรือหากปิดบังไม่ได้ก็รายงานว่าเป็นความผิดพลาดของลูกน้องคนใดคนหนึ่ง ถ้าคุณบริหารแบบนี้คุณจะไม่เห็นความเป็นจริงที่หน้างาน อาจจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากลูกน้อง ส่งผลให้ติดสินใจและสั่งการผิดพลาด ไม่ได้รับความรู้สึกที่ดีจากลูกน้อง ส่งผลให้ teamwork อ่อนแอ จนนำไปสู่การแบ่งพักแบ่งพวกในองค์กร
3.
ติดดิน
เข้าไปสั่งการในพื้นที่ให้เห็นกับตา
มีปัญหาเข้าไปร่วมแก้ไข รับทั้งผิดและชอบร่วมกับทีมงานทุกคน คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรือทำเป็นทุกอย่าง แต่เข้าไปมีส่วนร่วมทุกอย่าง ลูกน้องคุณจะบอกรายละเอียดแก่คุณเอง
คุณจะได้รับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน
ทำให้ตัดสินใจและสั่งการได้ถูกต้อง
ปัญหาต่างๆแก้ไขได้อย่างรวดเร็วเพราะมี teamwork ที่เข้มแข็ง การเป็นผู้จัดการแบบนี้ต้องทำงานหนัก อดทน หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเข้าพื้นที่ร่วมกับลูกน้องอาจจะไม่ได้รับการตอบสนองในทางบวกทุกครั้งทุกคน แต่การทำเพื่อพิสูจน์ให้ลูกน้องเห็นว่าคุณมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นผู้นำพวกเขาได้ ทำงานร่วมหัวจมท้ายกับพวกเขา พร้อมที่จะเสียสละแรงกายแรงใจกับลูกน้อง รายงานเจ้านายว่าผลงานเป็นของทุกคน ลูกน้องจะรักคุณและทุ่มเททำงานให้คุณ
ทั้ง 3 แบบที่กล่าวมาเคยพบเห็นจริงในองค์กร แบบที่ 1 อยู่ได้ไม่นานก็ร่วงเพราะลูกน้องไม่ยอมรับ สั่งการใครไม่ได้ เท่ากับวันๆไม่ได้ทำหน้าที่ แบบที่ 2 จะอยู่ได้นานกว่าแบบที่
1
เพราะยังรู้จักวางอำนาจ
รู้จักรายงานเจ้านายเอาความดีเข้าตัว
จึงทำให้ลูกน้องบางคนเกรงกลัว
แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเมื่อความจริงจะปรากฎในรูปของผลงาน
และหลังจากนั้นลูกน้องจึงจะกล้าพูดถึงข้อเสียของผู้จัดการคนนี้ แบบที่ 3 ยังไงก็รุ่ง
ถึงแม้ในความเป็นจริงของสังคมจะมีทั้งคนรักและคนเกลียด แต่การเป็นผู้จัดการแบบที่ 3 ก็ยืนยันได้ว่าลูกน้องจะรักคุณมากกว่าเกลียดแน่นอน
และคุณจะทำงานร่วมกับลูกน้องและทีมงานได้อย่างยืดยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น